วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

เฉาะของเทียม “เอมมี่” เจ้าตัวโวผู้ชายไม่รู้ว่าเป็นกะเทย แถมถึงจุดสุดยอดได้อีกต่างหาก


ทีเด็ด “กะเทยเอมมี่” ผู้กล้าท้าชิงผู้ชายกับ “อั้ม พัชราภา” เจ้าตัวเผยกว่าจะเช้งกระเด๊ะมีทั้งนมและเครื่องเคราแบบผู้หญิงต้องเจ็บเจียนตาย นั่งมอไซด์อยู่ดีๆ ก็แคม(labia) ปริต้องเข้าโรงพยาบาลเย็บใหม่ แต่พอหายเป็นปกติกะเทยคนดังก็กระหน่ำใช้งาน โวสุดเจ๋งผู้ชายไม่รู้ว่าเป็นของปลอม ลั่นถึงจะไม่ใช่ของจริงแต่ก็มีอารมณ์และสามารถบรรลุจุดสุดยอดได้

เกิดเป็นซูเปอร์สตาร์อย่าง “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ใครๆ ก็อิจฉา แต่ใครจะไปคิดว่าวันนึงคนอย่าง อั้ม จะต้องมาหัวเสียเพราะมีข่าวโดนสาวประเภทสอง “เอมมี่ รัชฎา ครุฑรามาษ” ลูบคมด้วยการฉกของรักอย่างหนุ่ม “โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์” ไปจากอก ถึงกับแอบย่องขึ้นคอนโดถึงสองครั้งสองครา งานนี้ทำเอาหลายคนอยากรู้ว่า สาวเทียมอย่างเอมมี่มีดีอะไรถึงได้กล้าหยามของแท้อย่าง อั้ม พัชราภา

ว่าแล้วสาวเอมมี่ก็เลยพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการตีแผ่เรื่องราวของตัวเองผ่านพ็อกเกตบุ๊ก ชื่อ “ฉันนี่แหละ กะเทยเอมมี่” ซึ่งมีกำหนดวางแผงเร็วๆ นี้ โดยงานนี้เอมมี่จะเปิดใจถึงชีวิตสาวประเภทสองอย่างหมดไส้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศัลยกรรมผ่าตัดไอ้จ้อนสุดยอดความใฝ่ฝันของกะเทย รวมไปถึงลงทุนใส่ชุดชั้นในถ่ายแฟชั่น ชนิดเปิดกันจะจะเลยทีเดียว

“พ็อกเกตบุ๊กเสร็จหมดแล้ว ถ่ายปกเรียบร้อย ตอนนี้ให้ผู้ใหญ่สกรีนอยู่ สกรีนไป 3 รอบแล้ว ที่ต้อง 3 รอบเพราะอยากให้ดูว่ามันยังมีอะไรขาดตกบกพร้องมั้ย และไปกระทบคนอื่นหรือเปล่า เรื่องราวในพ็อกเกตบุ๊กมันเป็นอะไรที่ตลกมากกว่ากว่า เป็นเรื่องราวของสาวประเภทสอง เรื่องราวการประกวด เรื่องราวของการศัลยกรรม และเป็นเรื่องราวชีวิตของเราที่ผ่านมา จนกระทั่งทำให้เราเป็นกระแสในตอนนี้ แต่ว่ากระแสอาจจะไม่แรงมาก คือเป็นแค่ช่วงนึงของชีวิตเราเท่านั้นเอง”

“ที่อยากเขียนเพราะเริ่มจากกระแสก่อนเนอะ พอมีกระแสก็มีผู้ใหญ่เสนอออกทุนให้ อยากให้เราลองทำดู พอได้ทำก็รู้สึกภูมิใจมากๆ เลยค่ะ เป็นผู้ใหญ่ท่านนึงละกัน ไม่อยากเอ่ยชื่อ(หัวเราะ) ซึ่งเอมมี่ก็โอเคนะ เพราะมันก็เป็นรายได้ให้เราด้วย รู้สึกว่าก็ดีนะ หลายๆ คนจะไดรู้จักเรามากขึ้น เพราะบางเรื่องเราอาจจะให้สัมภาษณ์คลุมเครือ”

“เรื่องราวที่จะเล่ามีเยอะมาก จนบางทีต้องตัดออกไปเพราะมันเยอะเกิน และเรื่องของความรักของสาวประเภทสองด้วย เพราะจริงๆ แล้วสาวประเภทสองก็มีความรักได้เหมือนกัน เอมมี่เต็มที่ทุกอย่างทั้งเรื่องราวที่เล่าและแฟชั่น ขนาดภาพประกอบในเล่มยังเต็มที่เลย เป็นชุดชั้นในเซ็กซี่มาก ขนาดปอย(ตรีชฎา)ยังบอกว่าแรงกว่าฉันอีก(ยิ้ม) เซ็กซี่ที่สุดที่เอมมี่เคยถ่ายมา และเซ็กซี่ที่สุดที่เคยเห็นสาวประเภทสองถ่ายแบบนี้”

“เนื้อหาในเล่มมันจะเป็นการแฉคนโน้นคนนี้หรือเปล่า จริงๆ เอมมี่ว่ามันก็เป็นเรื่องราวที่เราเคยประสบพบเจอมา แต่มันจะไม่มีแบบแฉคนนั้นคนนี้ แต่อาจจะมีบางมุมที่ยังไม่ได้พูด แต่มันก็ไม่ทำให้ใครเสียหายอยู่แล้วค่ะ เอมมี่เน้นเล่าเรื่องสาวประเภทสองมากกว่านะ เรื่องศัลยกรรมด้วย เรื่องที่เป็นข่าวบางคนอาจจะยังไม่กระจ่างมาก ในพ็อกเกตบุ๊กอาจจะทำให้กระจ่างมากขึ้น โดยเฉพาะตัวตนเรา เอมมี่ว่าสาวประเภทสองน่าจะชอบเล่มนี้ เพราะเอมมี่พูดเรื่องศัลยกรรมเยอะมาก อย่างเคล็ดลับการประกวดนางงาม เรื่องการดูแลสุขภาพก็มี”

ยัน ไม่แฉโน้ตแต่แค่พูดถึงในมุมที่ทุกคนอาจยังไม่รู้

“ส่วนเรื่องเขา(โน้ต)เอมมี่ว่าไม่มีเลยดีกว่า(ยิ้ม) การใช้ภาษาถ้าคนที่ไม่ได้ดูข่าวคงไม่รู้ว่าคือใครด้วยซ้ำ (แต่ข่าวบอกว่ามีแฉโน้ตด้วย?) เอมมี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาตามหัวข้อข่าวก็จะบอกว่าเอมมี่เตรียมแฉ แต่จริงๆ เอมมี่ว่ามันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่ก็มีคนสนใจว่ามันจะเป็นยังไง ก็เดี๋ยวคอยติดตามดูก็แล้วกันค่ะ(ยิ้ม) (บอกว่าไม่ได้แฉ แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่ามีเรื่องราวของโน้ตในพ็อกเกตบุ๊กด้วยใช่มั้ย?)มีเรื่องราวของเขาในนั้นค่ะ แต่ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นโอ้โห...ขนาดนั้น คือมันไม่ได้ไปแฉเขาถึงขนาดนั้น”

“มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เกี่ยวกับความรักที่ผ่านมา ว่าเราไปประสบพบเจอใครมามากกว่า (โน้ตก็เป็นหนึ่งในประสบการณ์ความรักที่ว่าหรือเปล่า?) อุ้ย...ไม่ๆ ค่ะ(หัวเราะ) แต่เขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่ทำให้เราเข้ามาอยู่จุดๆ นี้ได้มากกว่า มันเป็นการโยงที่มาที่ไปว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเราก่อนจะมาจุดนี้อะไรประมาณนี้ค่ะ (กลัวจะมีปัญหากับอั้มมั้ย?) เอมมี่คิดว่าไม่มีแล้วมั้งคะ อย่างที่เรื่องมันไม่ถูกต้องเอมมี่ก็อยากแก้ไขให้มันถูกต้อง อย่างเรื่องเป็นมือที่สาม นี่ก็ไม่ใช่เลย เราก็ไม่ได้คบไม่ได้ไปมาหาสู่อะไรเขา”

“จุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จักเขา(โน้ต)เพราะเราไปเป็นเพื่อนของเพื่อน คือเพื่อนเอมมี่รู้จักเขาอยู่แล้ว แล้วเขาจะไปเจอกันเอมมี่ก็เลยไปด้วย แล้วก็มีการแนะนำให้รู้จักแค่นั้นเอง ไม่ได้รู้จักกันมานาน ไม่ใช่ (รู้มั้ยว่าโน้ตเป็นแฟนอั้ม?) ไม่รู้เลย วันที่ไปเจอเขาก็เป็นผู้ชายที่ดูดีคนนึง และไม่รู้ว่าเป็นแฟนใคร มารู้อีกทีตอนเป็นข่าวในรายการแฉแต่เช้า เพื่อนยังบอก เอมมี่ยังตกใจเลย ถ้ารู้ก่อนคงไม่ยุ่งนะ ไม่กล้าเสี่ยงๆ”

“ถ้าเป็นมือที่สามคือต้องคบกันเนอะ หรือต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน อันนี้ไม่มีเลยๆ แต่เอมมี่ก็ยอมรับว่าไปคอนโดเขามากกว่าหนึ่งครั้ง บอกตรงๆ ตั้งแต่ที่ยังไม่เป็นข่าวเอมมี่ไม่รู้เลยว่าเขาเป็นคนนั้น(หมายถึงไม่รู้ว่าโน้ตเป็นแฟนกับอั้ม) เพราะตัวจริงกับในหนังสือ เขาไม่เหมือนกันเลย ตัวจรองเขาจะดูเด็กๆ แต่ในข่าวเขาจะดูขรึมๆ (วันนั้นไปทำอะไรที่คอนโดโน้ต ไปเชียร์บอลอย่างที่โน้ตพูดหรือเปล่า?) เอมมี่ไปก่อนที่จะมีการเตะบอลอีกนะ”

“วันนั้นเราไปนั่งคุยกันขำๆ เหมือนสังสรรค์คุยกันมากกว่า แต่ที่เหลือที่คนอื่นไม่เห็นคนเขาก็ตีความหมายเป็นอย่างอื่นไป (แต่ทางโน้ตบอกว่าได้เบอร์เอมมี่จากการซุ่มเลือกจากโทรศัพท์ เหมือนพวกสาวไซด์ไลน์?) ประเด็นนี้เอมมี่ว่ามันขำมากอ่ะ จะเอากะเทยมาเป็นสาวไซด์ไลน์เหรอ(หัวเราะ) เอมมี่อาจจะเหมือนผู้หญิงนะ แต่ก็ไม่ได้เหมือนผู้หญิงมากขนาดนั้น เรียกเราไปจะทำให้เขาโมโหกว่าเก่าหรือเปล่า(หัวเราะ) อันนี้ไม่จริงเลยค่ะ ไอ้คำว่าไซด์ไลน์มันต้องเป็นผู้หญิงนะ อยู่ดีๆ จะเอากะเทยมาทำไซด์ไลน์ มันมีรึเปล่า มันมีด้วยเหรอ(หัวเราะ)”

“เอมมี่ไปคอนโดเขาสองครั้ง ทุกครั้งที่ไปเป็นลักษณะไปนั่งดื่ม นั่งพูดคุยกันมากกว่า ครั้งที่สองก็ไปกับเพื่อนสองคนเหมือนเดิม (โน้ตบอกตอนที่เอมมี่ไปหามีเพื่อนเขาอยู่ด้วย?) เขาก็อยู่คนเดียวนะ เอออันนี้งงมาก(หัวเราะ) (เคยอยู่กันตามลำพังมั้ย?) อาจจะมีที่แบบ..บางทีเพื่อนลืมของไว้ แล้วลงมาเอาของที่รถแป๊บเดียว ไม่ถึงชั่วโมง ไม่ใช่แบบ...ปล่อยให้อยู่สองต่อสองนานๆ ไม่ใช่ (ตอนที่อยู่กับเราสองคนเขามีอาการยังไง เขินบ้างหรือเปล่า?) ไม่นะ ปกติ (เขาเคยจับมือเรามั้ย?) ไม่มีๆ เขาเป็นสุภาพบุรุษมากๆ เลย”

“ซึ่งครั้งที่สองมันก็มีการคุยกันมากขึ้น แต่คบกันเป็นแฟนไม่มีค่ะ (โน้ตมีท่าทียังไง มีแสดงออกว่าชอบเราบ้างมั้ย?) อันนี้ก็ดูยากนะ แต่เอมมี่ว่าไม่หรอก เขาเป็นผู้ชายคงชอบผู้หญิงปกติ (เขารู้มั้ยว่าเราเป็นสาวประเภทสอง?) คิดว่าไม่รู้นะ คิดว่าเขามาทราบตอนหลัง เพราะเราคบกันผิวเผิน แต่จริงๆ ก็คิดว่าเขาน่าจะรู้เพราะเอมมี่ก็ไม่ได้แอ๊บ เพราะเวลาเอมมี่คุยกับผู้ชายก็บอกจะเลยว่าเป็นสาวประเภทสอง มันเกร็งไง ถ้าบอกว่าเป็นผู้หญิงต้องแอ๊บตลอด ไม่ไหว แล้วกับเขาเอมมี่ก็ไม่ได้สนิทถึงขั้นบอกว่าฉันทำมาแล้วนะ มันไม่ใช่”
“เรื่องที่เขาลงมารับมาส่ง คือมันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะที่นั่นหรูมาก ระดับห้าดาวเลยล่ะ ระบบความปลอดภัยก็ต้องควบคุมดีอยู่แล้ว เราจะเดินขึ้นไปเองมันก็คงไม่ใช่ ที่ผ่านมาก็ไปเจอที่คอนโดที่เดียว ที่อื่นไม่เคยไป ไม่บ่อย สองครั้งอย่างที่เคยบอก และไม่ได้ไปถี่ด้วย ที่ไม่ได้ไปอีกเพราะมันเป็นข่าวขึ้นมาก่อน(หัวเราะ) (ถ้าเรื่องไม่แดงขึ้นมาก่อน เอมมี่จะยังสานสัมพันธ์กับโน้ตต่อมั้ย?) ถ้าหมายถึงถึงขั้นคบกันเป็นแฟนคงไม่ใช่ค่ะ คิดว่าคงไม่ได้สานสัมพันธ์หรอกค่ะ ไม่รู้ทำไมคนมองแบบนี้เนอะ แต่เอมมี่ว่าเราไม่สามารถไปห้ามความคิดใครได้ เอาเป็นว่าเรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร”

ถ้าไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วมีเหตุผลอะไรที่เราไปหาเขาที่คอนโด?

“คือเอมมี่คุยกับเขาเรื่องไปเที่ยวเมืองนอกกัน คุยกันเรื่องขำๆ ไม่มีอะไร คนที่เขาไม่รู้ก็คงจะคิดว่าเฮ้ย..มันต้องไปทำอะไรแน่ๆ เลย แต่ช่วงที่เราอยู่กันสองคนก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลย หรือว่าจับมือหรืออิ๊เอ๊าะก็ไม่มี(พูดไปเขินไป) ก็เป็นการพูดคุยกันปกติมากกว่า แต่อย่างว่านะอยู่กันสองคนใครจะไปรู้ว่าทำอะไร(หัวเราะมีเลศนัย) ไม่มีๆ ความสัมพันธ์เราคือเป็นคนรู้จักค่ะ ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึ้กซึ้ง การเจอกันสองครั้งมันก็มีความสนิทในระดับนึง แต่ไม่ถึงขั้นคนรู้ใจคุยกัน เออฉันรู้จักคุณนะ คุณรู้จักฉันนะแค่นั้นเอง”

“ฟีดแบคจากทางโน้น(โน้ต-อั้ม)ก็ไม่มีอะไร เอมมี่ว่าเอมมี่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ บางทีกระแสข่าวมันก็ทำให้เราต้องลุกขึ้นมาตอบโต้ ลุกขึ้นมาสู้บ้าง ถ้าเราไม่ออกมาเราก็จะเป็นอย่างที่ข่าวลง ฉะนั้นก็ต้องตอบโต้บ้าง บางทีมีงานให้ไป มีอีเว้นท์ให้ออกก็ดีนะ เพราะบางทีเราก็ไม่รู้จะไปพูดที่ไหน แล้วพี่ๆ สื่อก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีมาก(ยิ้ม)”

“จริงๆ ตอนนั้นไม่ได้มีการแลกเบอร์อะไรกันเลยด้วยซ้ำ แต่ฝ่ายโน้นเขาก็เป็นคนโทร.มาหาเรา แต่ถ้าจะให้มองอีกมุมนึงคือ ที่เขาบอกว่ามีผู้หญิงไปกันหลายคนถูกมั้ย แล้วเขา(โน้ต)ก็บอกว่าทางเขามีเพื่อนอยู่หลายคน แต่ทำไมเขา(อั้ม)ถึงโทร.หาหนูคนเดียวอ่ะ ถ้าบอกว่ามีผู้หญิงนั่งอยู่หลายคน ทำไมไม่โทร.หาผู้หญิงทุกคนที่นั่งอยู่ในห้อง แต่ทำไมถึงเจาะประเด็นโทร.หาหนูคนเดียว”

“วันนั้นเขาใช้เบอร์เขาโทร.หาหนูเองเลย วันนั้นเขา(อั้ม)ก็ถามว่าเคยมีอะไรกันมั้ย ก็อย่างที่บอกเขาเป็นผู้หญิงก็คงอยากรู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง แต่เราก็บอกว่ามันไม่มีอะไร ซึ่งมันก็เพิ่มความแรงของข่าวขึ้นมาอีก ตรงที่เขาโทร.มาหา ซึ่งเราก็สำคัญสิ เขาถึงโทร.มาหาถูกป่ะ แล้วตอนนั้นเขา(โน้ต)ก็นั่งอยู่ด้วยกัน ก็คุยกัน 3 คน เขาก็บอกไม่มีอะไร เอมมี่ก็บอกว่าไม่มีอะไร ก็พูดตรงกัน (แล้วจริงๆ มีอะไรมั้ย?) (หัวเราะ) ไม่มีอะไรค่ะ”

เผย ชีวิตพลิกหลังมีข่าวขึ้นคอนโดโน้ต งาน-เงินวิ่งชนตู้มต้าม

“ตั้งแต่มีข่าวเรื่องนี้มา มีแต่งานดีๆ เข้ามานะ ยังไม่เจออะไรที่ไม่ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เอมมี่ว่าคนไทยลืมง่าย อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ยังไม่ได้โดนกลั่นแกล้งอะไร แต่จริงๆ เอมมี่ก็ปฏิเสธตลอดนะ ไม่เคยไปบอกว่าฉันเคยมีอะไรกับเธอนะ ไม่เคยพูดแบบนั้น งานอีเว้นท์ แล้วก็พวกผลิตภัณฑ์ครีมต่างๆ เยอะมาก มันก็มีเข้ามาระดับนึง แต่เอมมี่ก็มีธุรกิจของเอมมี่เองอยู่แล้ว ส่วนด้านนี้มันก็เป็นอาชีพที่ดีมาก อาจจะช่วยส่งเสริมอาชีพที่เราทำอยู่ด้วย มันทำให้อะไรๆ ดูง่ายขึ้น”

“ไปไหนมาไหนคนก็รู้จักทั่วหน้าทั่วตา ก็ทำให้ใช้ชีวิตยากขึ้นนะ สาวประเภทสองมันก็จะมีอีนั่นอีนี่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้ว ก็กลายเป็นคนพูดจาสุภาพเรียบร้อยมากขึ้น หนูรู้สึกว่าต้องเป็นตัวอย่างที่ดีด้วยสิ เมื่อก่อนก็จะโหวกเหวกโวยวาย ก็ตามประสาสาวประเภทสอง ตอนนี้ไปทำที่บ้าน ด่ากับสุนัขอะไรแบบนี้ก็มีบ้าง(ยิ้ม) ตอนนี้ก็มีคนมาขอถ่ายรูปขอลายเซ็นต์ ก็รู้สึกดีค่ะ”

“คำว่าวงการมายา มันมายาจริงๆ นะ คือคำพูดเรามันสามารถแปลไปได้อีกสิบอย่างยี่สิบอย่าง แล้วก็ต้องคอยมานั่งตามแก้ สมชื่อมายา แต่เอมมี่ก็โอเคนะ เราเคยเจอเรื่องที่แย่มาแล้ว ต่อไปเอมมี่คิดว่าเราน่าจะตั้งรับกับมันได้”

ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป ใช้คำสุภาพ